วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

ผมหงอก..ยิ่งถอนยิ่งหงอกจริงหรือไม่

ในวัยที่เริ่มมีผมหงอกเรามักจะไม่กล้าถอนกัน เพราะเชื่อว่าเมื่อถอนผมหงอกเชื้อผมหงอกจะกระจายจากรากผมเส้นที่หงอก แล้วลามไปที่รากผมบริเวณใกล้เคียง(อย่างกับโรคติดต่อ) จนทำให้ผมหงอกทั้งศรีษะ แต่ในความเป็นจริงแล้วรากผม 1 เส้น จะสร้างผมได้ 1 เส้น ต่อให้ตัดหรือถอนก็ไม่สามารถทำให้เส้นผมเพิ่มขึ้นได้ เพราะเส้นผมหงอกที่ถูกถอนหนึ่งเส้นจะไม่สามารถสร้างผมหงอกขึ้นมาได้อีก ดังนั้น การที่ยิ่งถอนยิ่งหงอกจึงเป็นไม่เป็นความจริง แต่ผมหงอกที่เพิ่มขึ้น เพิ่มจากปัจจัยอื่นต่างหาก เพื่อเป็นการป้องกันที่สาเหตุ ก่อนที่จะหงอกก่อนวัย เราควรดูแลผมให้ดกดำด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น งาดำ เป็นต้น หรือถ้าหงอกมากแล้วไม่สบายใจจะพิจารณาเป็นการย้อมผมดำแทนก็ได้ แล้วแต่จะเลือกวิธีการที่สะดวกและเหมาะกับตนเอง

น้ำยาล้างผักสูตรทำเองง่ายๆ

การขนส่งผักกว่าจะถึงมือผู้ซื้อ แน่ใจได้อย่างไรว่าสะอาด ปลอดภัย และปราศจากสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การใช้น้ำยาล้างผัก สามารถลดสารพิษในผักได้มากกว่าการล้างด้วยน้ำเปล่า จะซื้อหามาใช้งาน หรือต้องการประหยัดด้วยการทำเอง ก็มีสูตรน้ำยาล้างผักที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ มาแนะนำ 3 สูตร ดังนี้1. สูตรน้ำส้มสายชู (ลดสารพิษได้ถึง 90-95%)นำน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำสะอาดหรือน้ำประปาธรรมดา 15-20 ลิตรแล้วนำผักมาแช่ทิ้งไว้ 15-20 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่า 3-4 ครั้ง2. สูตรน้ำเกลือ (ลดสารพิษได้ถึง 60-70%)นำเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำสะอาด 4-5 ลิตรแล้วนำผักมาแช่ทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่า 3-4 ครั้ง3. สูตรน้ำโซเดียมไบคาร์บอเนต (ลดสารพิษได้ถึง 90-95%)นำโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำสะอาด 20-25 ลิตรแล้วนำผักมาแช่ทิ้งไว้ 15-20 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่า 3-4 ครั้งการรับประทานผักมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรล้างก่อนรับประทาน เพราะ ช่วยให้ผักสะอาด และลดสารพิษที่ปนเปื้อนมากับผักได้ ใส่ใจสักนิดเพื่อสุขภาพของตัวคุณ

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน

บ้านรักไทย ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนานอดีต ทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) “ก๊กมินตั๊ง” บ้านรักไทยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล กว่า 1,776 เมตร ทำให้พื้นที่หมาะสม สำหรับกับการปลูกชาพันธุ์ดีและพืชเมืองหนาว ทิวทัศน์ของหมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยทิวเขา และต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์ บ้านรักไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่องของชา และขาหมูหมั่นโถว คล้ายกับดอยแม่สลอง นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่แห่งนี้เพื่อดื่มด่ำกับการชิมชา และ รับประทานขาหมูหมั่นโถว โดยชื่นชอบกับความเงียบสบายของบ้านรักไทยแห่งนี้ ซึ่งยังมีกิจกรรมหลายอย่างไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานเช่น การเดินป่าศึกษาเส้นทางโดยมัคคุเทศน์น้อยพาเข้าไปชม "คุกดิน" และการขี่ม้าพาข้ามแดนไปฝั้งพม่า นอกจากนั้น ที่บ้านรักไทยยังมีเกสถ์เฮาส์ริมน้ำ (บ้านดิน) ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องกับสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิดอีกด้วยการเดินทางไปบ้านรักไทย ออกจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปตามทางหลวง 1095 แม่ฮ่องสอน-แม่มาลัย ไปทางอำเภอปาย ถึงแยกบ้านกุงไม้สัก (ไม่ไกลจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนนัก) จะพบป้ายบอกเส้นทางไปบ้านรักไทย โดยเลี้ยวซ้ายไปตามทางที่ไปภูโคลนคันทรีคลับ ตามเส้นทางจะมีที่เที่ยวมากมาย เช่น น้ำตกผาเสื่อ โครงการตามพระราชดำริปางตอง โครงการธนาคารอาหาร บ้านรวมไทย (ปางอุ๋ง) แล้วก็ถึง บ้านรักไทย หมู่บ้านสุดท้ายติดชายแดนเมียนม่า (พม่า)

ยาคูลท์

ยาคูลท์ (ญี่ปุ่น: ヤクルト Yakuruto ?) ชื่อในภาษาอังกฤษว่า Yakult เป็นเครื่องดื่มคล้ายโยเกิร์ตชนิดหนึ่ง เกิดจากกระบวนการหมักของนมพร่องมันเนยกับน้ำตาลและแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus casei Shirota) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่พบในระบบดูดซึมอาหารของมนุษย์ ซึ่งส่งผลช่วยให้ระบบในร่างกายของมนุษย์ทำงานได้ดีขึ้น ชื่อของยาคูลท์มาจากภาษาเอสเปรันโต คำว่า jahurto รูปเก่าของ jogurto ซึ่งหมายถึงโยเกิร์ต
ยาคูลท์ถูกคิดค้นโดย ศาสตราจารย์ชิโระตะ มิโนะรุ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกียวโต ใน พ.ศ. 2473 และต่อมาใน พ.ศ. 2478 เขาได้ก่อตั้งบริษัทยาคูลท์ (Yakult Honsha Co., Ltd.) ในเมืองมินะโตะ จังหวัดโตเกียว
ปัจจุบันได้มีการผลิตและจำหน่ายยาคูลท์ไปทั่วโลก
ทีม
เบสบอล โตเกียว ยาคูลท์สวอลโลวส์ (Tokyo Yakult Swallows) ตั้งชื่อทีมตามบริษัทยาคูลท์ภายหลังที่บริษัทยาคูลท์ได้ซื้อทีมในปี พ.ศ. 2513
พ.ศ. 2514 ยาคูลท์ เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทย

วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คุณรู้หรือไม่ว่า

คุณรู้หรือไม่ว่าชนชาติใดที่ฉลาดที่สุดในโลก ? 
และชนชาติใดที่หน้าตาดีที่สุด ?

1. มนุษย์มีทั้งหมด 3 เผ่าพันธุ์หลัก คือ
- คอเคซอยด์ เช่น ฝรั่ง, เเขกขาว, ละติน
- มองโกลอยด์ เช่น เอเชียตะวันออก, เเขกดำ, อินเดียนเเดง, เอสกิโม
- นิกรอยด์

2. ชนชาติที่มีสายพันธุ์เเละลักษณะทางกายภาพใกล้เคียงกับคนไทยแท้ที่สุดคือ "ลาว" เป็นมองโกลอยด์สาย "เซียมมอยด์" เหมือนกัน

3. แขกขาวคือ ฝรั่ง (คอเคซอยด์) สายพันธุ์หนึ่ง แต่ตัวเล็กกว่าและขนเยอะกว่าฝรั่งทั่วไป

4.แขกดำ คือ มองโกลอยด์ (คนเอเชีย) ผสมกับนิโกร แขกดำของแท้แทบไม่มีขน มีดั้งเล็กน้อย ดาราอินเดียที่เห็นสวย ๆ คล้ำ ๆดั้งโด่ง ๆ อย่างพิงกี้ คือ แขกดำมาผสมกับแขกขาวอีกที

5. นิกรอยด์ (นิโกร) เป็นสายพันธุ์ที่มียีนแรงที่สุด
- ถ้าเเต่งกะคอเคซอยด์ (ฝรั่ง) ลูกจะออกมาดำแต่ยังพอมีเชื้อคอเคซอยด์บ้าง
- ถ้าแต่งกะมองโกลอยด์ (เอเชีย) ยีนมองโกลอยด์จะถูกลบออกหมดเลย
**ดาราฝรั่งที่เราเห็นผิวคล้ำๆ (ไม่ถึงกับดำเหมือนนิโกร) หน้าสวย ๆ อย่างบียอนเซ่หรือ ฮัลลี่ เบอร์รี่ นี่ไม่ใช่ลูกครึ่งนิโกร แต่เป็นลูกเสี้ยวของเสี้ยวของเสี้ยวนิโกรอีกที

6. ถ้าทั่วโลกมีมนุษย์แต่ละสายพันธุ์จำนวนเท่ากันมองโกลอยด์ (พวกเรานี่เเหล่ะ) จะสูญพันธุ์ไวที่สุด เพราะมียีนอ่อนที่สุด แต่งกับพันธุ์ไหนก็จะถูกกลบเเทบหมด

7. มองโกลอยด์เป็นสายพันธุ์ที่มีไอคิวเฉลี่ยสูงที่สุด (สบายใจได้คงไม่สญพันธุ์ง่ายๆ) แต่ (อ่านข้อต่อไป)

8. หากเเบ่งย่อยออกไปอีก "ยิว" (คอเคซอยด์สายพันธุ์หนึ่ง) จะเป็นเผ่าพันธุ์ที่ฉลาดที่สุดในโลก
- ยิว IQ อย่างต่ำ117 (เฉลี่ย IQ 127) หมายถึงชาวยิวที่ IQ 117 จริงๆ นั้นมีเป็นส่วนน้อย ชาวยิวส่วนใหญ่ IQ สูงกว่านี้ !!!!!!

9. IQ เฉลี่ยของคนเชื้อสายต่าง ๆ
- ยิว IQ 117
- เอเชีย(ตะวันออก) IQ 107
- ยุโรปผิวขาว IQ 103
- ละติน IQ 90
- นิโกร IQ 85
- ชนพื้นเมือง IQ 87 - 89

10. ชนชาติที่หน้าตาดีที่สุด
- โลกตะวันตกยกให้แขกขาวเป็นชนชาติที่งามที่สุด เขาถือกันว่าแขกขาวคือฝรั่งพวกหนึ่ง (อพยพมาจากตอนใต้ของรัสเซีย) ที่ถูกคัดสรรมาแล้วให้งามกว่าฝรั่งทั่วไป ตัวเล็กกว่า คิ้วเข้ม ตาสวยกว่า (ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่คนอีกน่ะแหล่ะ ไม่ใช่จะสวยกันทั้งตระกูล)

11. ลูกครึ่งมักจะหน้าตาดีเเละฉลาดกว่าคนทั่วไป
- ถูกต้อง ยิ่งยีนต่างพันธุ์กันมากเท่าไหร่หรือผสมกันหลายชาติมากเท่าไหร่จะยิ่งสวยเเละฉลาดมากเท่านั้น เพราะยีนที่ต่างกันจะทำให้เกิด cross breed คือ ยีนเด่นจะออกมามากกว่ายีนด้อย ยีนด้อยจะถูกลบออกไปมากกว่าคนทั่วไป

12. อาจมีบางคนสงสัยว่าทำไมชาวยิวจึงมี IQ สูงมาก ขอตอบว่า ในประวัติอันยาวนานของชาวยิวนั้น มีกระบวนการที่คล้าย ๆ กับการบำรุงพันธ์สัตว์ในปัจจุบัน กล่าวคือ ส่งเสริมคนฉลาดและเหมือนเป็นการผลักไล่ไสส่งคนโง่ทางอ้อมให้ไปอยู่กับฝรั่งที่ชาวยิวเรียกอย่างดูถูกว่าพวกเจนไต (นอกศาสนา นอกรีต) โดยมีศาสนายูดายเป็นตัวจักรสำคัญ เพราะชาวยิวต้องพยายามทำความเข้าใจในคำสอนของศาสนา ผู้ที่แตกฉานสังคมจะให้การเคารพย่อง เมื่อเป็นดังนี้สาว ๆ ชาวยิวจึงนิยมแต่งงานกับคนพวกนี้ ทำให้ลูกหลานรุ่นต่อ ๆ มาของชาวยิวเต็มไปด้วยเด็กฉลาด ศาสนายูดายยังให้ชาวยิวแต่งงานกับชาวยิวด้วยกันเอง ความฉลาดจึงจำกัดอยู่ในชนเชื้อสายยิวเท่านั้น

คุณรู้หรือไม่ว่า

คุณรู้หรือไม่ว่าชนชาติใดที่ฉลาดที่สุดในโลก ? 
และชนชาติใดที่หน้าตาดีที่สุด ?

1. มนุษย์มีทั้งหมด 3 เผ่าพันธุ์หลัก คือ
- คอเคซอยด์ เช่น ฝรั่ง, เเขกขาว, ละติน
- มองโกลอยด์ เช่น เอเชียตะวันออก, เเขกดำ, อินเดียนเเดง, เอสกิโม
- นิกรอยด์

2. ชนชาติที่มีสายพันธุ์เเละลักษณะทางกายภาพใกล้เคียงกับคนไทยแท้ที่สุดคือ "ลาว" เป็นมองโกลอยด์สาย "เซียมมอยด์" เหมือนกัน

3. แขกขาวคือ ฝรั่ง (คอเคซอยด์) สายพันธุ์หนึ่ง แต่ตัวเล็กกว่าและขนเยอะกว่าฝรั่งทั่วไป

4.แขกดำ คือ มองโกลอยด์ (คนเอเชีย) ผสมกับนิโกร แขกดำของแท้แทบไม่มีขน มีดั้งเล็กน้อย ดาราอินเดียที่เห็นสวย ๆ คล้ำ ๆดั้งโด่ง ๆ อย่างพิงกี้ คือ แขกดำมาผสมกับแขกขาวอีกที

5. นิกรอยด์ (นิโกร) เป็นสายพันธุ์ที่มียีนแรงที่สุด
- ถ้าเเต่งกะคอเคซอยด์ (ฝรั่ง) ลูกจะออกมาดำแต่ยังพอมีเชื้อคอเคซอยด์บ้าง
- ถ้าแต่งกะมองโกลอยด์ (เอเชีย) ยีนมองโกลอยด์จะถูกลบออกหมดเลย
**ดาราฝรั่งที่เราเห็นผิวคล้ำๆ (ไม่ถึงกับดำเหมือนนิโกร) หน้าสวย ๆ อย่างบียอนเซ่หรือ ฮัลลี่ เบอร์รี่ นี่ไม่ใช่ลูกครึ่งนิโกร แต่เป็นลูกเสี้ยวของเสี้ยวของเสี้ยวนิโกรอีกที

6. ถ้าทั่วโลกมีมนุษย์แต่ละสายพันธุ์จำนวนเท่ากันมองโกลอยด์ (พวกเรานี่เเหล่ะ) จะสูญพันธุ์ไวที่สุด เพราะมียีนอ่อนที่สุด แต่งกับพันธุ์ไหนก็จะถูกกลบเเทบหมด

7. มองโกลอยด์เป็นสายพันธุ์ที่มีไอคิวเฉลี่ยสูงที่สุด (สบายใจได้คงไม่สญพันธุ์ง่ายๆ) แต่ (อ่านข้อต่อไป)

8. หากเเบ่งย่อยออกไปอีก "ยิว" (คอเคซอยด์สายพันธุ์หนึ่ง) จะเป็นเผ่าพันธุ์ที่ฉลาดที่สุดในโลก
- ยิว IQ อย่างต่ำ117 (เฉลี่ย IQ 127) หมายถึงชาวยิวที่ IQ 117 จริงๆ นั้นมีเป็นส่วนน้อย ชาวยิวส่วนใหญ่ IQ สูงกว่านี้ !!!!!!

9. IQ เฉลี่ยของคนเชื้อสายต่าง ๆ
- ยิว IQ 117
- เอเชีย(ตะวันออก) IQ 107
- ยุโรปผิวขาว IQ 103
- ละติน IQ 90
- นิโกร IQ 85
- ชนพื้นเมือง IQ 87 - 89

10. ชนชาติที่หน้าตาดีที่สุด
- โลกตะวันตกยกให้แขกขาวเป็นชนชาติที่งามที่สุด เขาถือกันว่าแขกขาวคือฝรั่งพวกหนึ่ง (อพยพมาจากตอนใต้ของรัสเซีย) ที่ถูกคัดสรรมาแล้วให้งามกว่าฝรั่งทั่วไป ตัวเล็กกว่า คิ้วเข้ม ตาสวยกว่า (ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่คนอีกน่ะแหล่ะ ไม่ใช่จะสวยกันทั้งตระกูล)

11. ลูกครึ่งมักจะหน้าตาดีเเละฉลาดกว่าคนทั่วไป
- ถูกต้อง ยิ่งยีนต่างพันธุ์กันมากเท่าไหร่หรือผสมกันหลายชาติมากเท่าไหร่จะยิ่งสวยเเละฉลาดมากเท่านั้น เพราะยีนที่ต่างกันจะทำให้เกิด cross breed คือ ยีนเด่นจะออกมามากกว่ายีนด้อย ยีนด้อยจะถูกลบออกไปมากกว่าคนทั่วไป

12. อาจมีบางคนสงสัยว่าทำไมชาวยิวจึงมี IQ สูงมาก ขอตอบว่า ในประวัติอันยาวนานของชาวยิวนั้น มีกระบวนการที่คล้าย ๆ กับการบำรุงพันธ์สัตว์ในปัจจุบัน กล่าวคือ ส่งเสริมคนฉลาดและเหมือนเป็นการผลักไล่ไสส่งคนโง่ทางอ้อมให้ไปอยู่กับฝรั่งที่ชาวยิวเรียกอย่างดูถูกว่าพวกเจนไต (นอกศาสนา นอกรีต) โดยมีศาสนายูดายเป็นตัวจักรสำคัญ เพราะชาวยิวต้องพยายามทำความเข้าใจในคำสอนของศาสนา ผู้ที่แตกฉานสังคมจะให้การเคารพย่อง เมื่อเป็นดังนี้สาว ๆ ชาวยิวจึงนิยมแต่งงานกับคนพวกนี้ ทำให้ลูกหลานรุ่นต่อ ๆ มาของชาวยิวเต็มไปด้วยเด็กฉลาด ศาสนายูดายยังให้ชาวยิวแต่งงานกับชาวยิวด้วยกันเอง ความฉลาดจึงจำกัดอยู่ในชนเชื้อสายยิวเท่านั้น

อย่าให้ "บิ๊กอายส์" ทำลายตา

อยากสวยแบ๊วแบบหนุ่มสาวเกาหลี "บิ๊กอายส์" จึงขายดิบขายดีและมีราคาถูกมากจนน่าใจหายอันตรายคืบคลานเข้าใกล้ตาแต่พวกเรายังชะล่าใจ
ดังที่ว่า "ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ" มัน จึงเป็นสิ่งมีค่าและสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์อวัยวะชิ้นนี้มีกลไกการทำ งานที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อน เป็นระบบประสาทที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับประสาทรับความ รู้สึกอื่นๆ
แต่ตราบใดที่เรายังมองเห็นได้ดี ไม่มีโรคตามมากวดหัวใจ เราจึงมักละเลยที่จะดูแลรักษาให้ตาอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีให้นานที่สุด แถมยังใช้สายตาไม่ถูกต้องด้วย จึงทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นลดลงเรื่อยๆ แต่พวกเราไม่รู้ตัว ยิ่งตอนนี้กระแส "ตาแบ๊ว" ไม่ใช่แค่แฟชั่นมาประเดี๋ยวก็ไป แต่มันกำลังจะหยั่งรากฝังลึกในดวงตาทุกคู่
ดร.ดนัย ตันเกิดมงคล หัวหน้าสาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เล่าให้เราฟังว่าในแต่ละปี เยาวชนใส่คอนแทคเลนส์เพิ่มขึ้นจำนวนมากโดยไม่คำนึงเรื่องคุณภาพ และรู้สึกเอาเองว่าใช้ได้เหมือนสินค้าทั่วไป แต่ความจริงแล้วคอนแทคเลนส์เป็นเครื่องมือแพทย์ มันต้องทำให้เราใช้สายตาได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพื่อความสวยงามเป็นหลัก
คอนแทคเลนส์สีหรือที่เรียกกันว่า บิ๊กอายส์ นั้นจัดอยู่ในหมวดคอสเมติก ถูกสร้างมาเป็นพิเศษด้วยการใส่เม็ดสีที่สามารถพรางสีม่านตาเดิมให้เป็นสีที่ ต้องการได้ จึงใส่ไม่สบายเท่าคอนแทคเลนส์ชนิดอื่นๆ และเนื่องจากมันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน จึงมีอัตราการซึมผ่านของออกซิเจนน้อยกว่า ฉะนั้นเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีแสงสว่างน้อย รูม่านตาขยายเกินขอบเขตของช่อง ทำให้การมองเห็นอาจมีประสิทธิภาพด้อยลง
ที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือผลกระทบระยะยาวมากกว่า เพราะการใช้คอนแทคเลนส์สีแบบผิดๆ และใช้สินค้าด้อยคุณภาพ อาจทำให้ติดเชื้อและลุกลามเรื้อรังในหนังตาและสุขภาพกระจกตาเสื่อมก่อนวัย
คุณนพพร ภัทรรุจี ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าบริษัท ซีบาวิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายเสริมว่าคนใส่คอนแทคเลนส์ มีไลฟ์สไตล์ ใช้สายตาอย่างหนักหน่วงมากเกินไป พวกเขาใส่มันนานกว่า 8-10 ชั่วโมงและอยู่กับวัสดุที่ไม่สามารถส่งผ่านออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลล์กระจก ตาได้เพียงพอ
จึงเป็นที่มาของภาวะ การขาดออกซิเจนของกระจกตา นำมาซึ่งภาวะกระจกตาชราเกินวัย โดยจะมีอาการตาแดงโดยไม่ทราบสาเหตุระคายเคือง มองเห็นภาพมัว หรือแสงรุ้งรอบดวงไฟ มองภาพไม่ชัดเจน เหมือนสายตาสั้น เพิ่มขึ้นเพราะกระจกตาบวม จนไม่สามารถทนใส่คอนแทคเลนส์ได้นาน หรือไม่ได้เลยในที่สุด
ฉะนั้น ก่อนที่หนุ่มสาวๆ ทั้งหลายจะ "แอ๊บแบ๊ว" ดร.ดนัยบอกทางป้องกันไว้ว่า ผู้ใส่ต้องมีกฎเหล็ก เมื่อตัดสินใจใส่คอนเทคเลนส์ควรแวะไปให้จักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรวิเคราะห์ ความเหมาะสม หรือข้อจำกัดเฉพาะตัวก่อน เช่น บางคนกระจกตาบางมาก จึงไม่เหมาะกับคนแทคเลนส์ชนิดใดเลย หรือคนที่สายตาเอียงต้องใช้คอนแทคเลนส์สำหรับสายตาเอียง เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้น เป็นต้น
เมื่อไร้ปัญหาใดๆ ก็ควรเลือกเลนส์ที่มีการรับรองทางการแพทย์ ครั้นใส่แล้ว ก่อนนอนก็ต้องถอดออก และทำความสะอาดอย่างเคร่งครัด
"พยายาม หาวัสดุที่สามารถให้ออกซิเจนผ่านตาได้สูง และอย่าใช้คอนแทคเลนส์ผิดประเภท เช่นรายเดือนก็ต้องใช้เพียงเดือนเดียวแล้วทิ้ง หรืออย่าแลกใส่กับเพื่อน และอย่าเปลี่ยนแบรนด์บ่อยหากใช้ยี่ห้อไหนแล้วดีกับตัวเองก็อย่าเผลอใจไปกับ โปรโมชั่นเจ้าอื่น และถ้าตามีปัญหา ก็อย่าทนให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน" ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตากล่าว
เทคนิคยืดดวงตา
- สวมแว่นสายตาให้เหมาะสมกับสายตาหากปล่อยทิ้ง คนสายตาสั้นอาจทำให้เกิดตาเหล่ออก คนสายตายาวจะตาเหล่เข้า
- ใส่แว่นตาเป็นประจำ จะทำให้สายตาคงที่ หรือเปลี่ยนแปลงช้าลง
- ใช้น้ำยาล้างคราบโปรตีนทุกเดือนไม่เปลี่ยนยี่ห้อน้ำยาล้างบ่อยๆ
- พักสายตา 5-10 นาทีหลังใช้คอมพิวเตอร์ทุกๆ 1 ชั่วโมง
- ระยะอ่านหนังสือไม่ควรใกล้กว่า 40 ซม.
- ห่างจากจอทีวีอย่างน้อย 4 เท่าของขนาดจอ
หมั่นตรวจสายตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีระยะยาว