วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

ทายกาลชะตากำเนิด (วันเกิด) เจ็ดวัน


คนเกิดวันอาทิตย พระประจำวันปางถวายเนตร
ผู้ใดเกิดวันอาทิตย์ ผู้นั้นใจจิตจะพลันมักง่าย ทำการเสมอตัว ดีชั่วใด ๆ ทำคุณแก่ใครเหมือนไฟตกน้ำ จะมีผู้ใหญ่เป็นผู้อุปถัมภ์ เจรจาล้ำเลิศ ไม่มีความผิด น้ำใจซื่อตรง คงสัตย์ต่อมิตร รักง่ายใจจิต ไม่คิดเสียดาย ถ้อยความมาต้อง ถึงสองสามราย ร้ายแล้วกลับกลายเป็นดีภายหลัง เมื่อน้อยไร้ทรัพย์ เมื่อเติบโตกลับมั่งคั่งบริบูรณ์ พร้อมพรั่งมีมาก แต่จากที่อยู่ จิตใจนั้นใหญ่ มักชอบเจ้าชู้ จะมีความรู้ะเป็นที่สำคัญ


คนเกิดวันจันทร์ พระประจำวันปางห้ามสมุทร
ผู้ใดเกิดวันจันทร์ เกณฑ์ชาตาผู้นั้น ทายว่าไร้วงศา อันจะพึ่งญาติ มิได้สักครา เขากลับพึ่งพา ดีเนื้อดีใจถ้าแม้นผู้อื่น ยั่งยืนหมายไว้ ติดเนื้อต้องใจ เอาเป็นพี่น้อง ไม่เกรงกลัวใคร น้ำใจจองหอง โอหังคะนอง พบเพื่อนสูงศักดิ์ ปากอ่อนใจแข็ง โกรธร้ายแรงนัก พ่อแม่ที่รัก ไม่อยู่เลี้ยงกัน มักมีตำหนิ เป็นแผลสำคัญ ถ้ามิฉะนั้น ทายว่าถูกไฟ จะต้องลำบาก ได้ยากเจ็บไข้ โทษทัณฑ์โภยภัย เพราะท่านผู้อื่น ตกยากเมื่อหน้า ภายหลังคงคืน ครอบครองยั่งยืนสุดสิ้นชนมานย์


คนเกิดวันอังคาร พระประจำวันปางไสยาสน์
ผู้ใดเกิดวันอังคาร จิตใจกล้าหาญ ทายว่ารกพันคอ โกรธเร็วดังไฟ ใจไม่ย่อท้อ ได้พึ่งแม่พ่อ เป็นที่มั่นคง พี่น้องวงศา ไม่น่าซื่อตรง ทำให้ไหลหลง จนได้รำคาญ แต่มีปัญญา เจรจาอ่อนหวาน ไม่เกียจไม่คร้าน ต่อนานจึงจะดี ชาตาอาภัพ เกิดกับที่นี่ ต้องย้ายจึงจะดี ไปอยู่ที่อื่น ได้ดีสองครั้ง มั่งคั่ง มั่งคั่งยั่งยืน แล้วกลับโหดหืน ได้ยากสองหน จะต้องร้อนใจ เพราะภัยประจญ เครือญาติของตน ทำเดือดร้อนใจ ต่อแก่ชรา สุดสิ้นโรคภัย ได้ทรัพย์ที่สุด


คนเกิดวันพุธ พระประจำวันปางอุ้มบาตร
ผู้ใดเกิดวันพุธ ใจดีที่สุด ทั้งหญิงทั้งชาย แต่ไร้วงศา ญาติกาทั้งหลาย ใจพลันมักง่าย ไม่คิดหน้าหลัง มักเอาที่อื่นเป็นที่พึ่งพา ทรัพย์สินนานา ทำใส่ตัวเอง ถ้าเป็นสมณะ คนระยำเกรง คฤหัสถ์โฉงเฉง โก้งเก้งฉกลัก ใจชอบนักเลง ผู้หญิงมักรัก พบเพื่อนต่ำศักดิ์ มักจะได้ร้อนรน ตกยากหลายครั้งได้ดีหลายหน พ่อแม่แห่งตนมิได้ปฏิบัติ


คนเกิดวันพฤหัสบดี พระประจำวันปางสมาธิ
ผู้ใดเกิดวันพฤหัสบดี อาจารย์บัญญัติว่ารูปงามใจดี แต่ว่าอาภัพ เกิดกับที่นี่ต้องย้ายจากที่ไปอยู่แห่งอื่น เมื่อน้อยไร้ทรัพย์ ใหญ่กลับคงคืน เจรจายั่งยืน คนมักพอใจ ครองทรัพย์คงที่ ไม่มีโภยภัย คนที่อาศัย มักชอบใจตน ทำการใจเย็น ไม่เห็นร้อนรน แต่ทำคุณคน ไม่เป็นประโยชน์ ทำคุณแก่เขา เขากลับให้โทษ ไม่เป็นประโยชน์ จำไว้อย่าคลา มากชู้หลายเมีย ได้เสียไม่ว่ามักได้ทุกขา เพราะเพื่อนฝูงตน ครองศีลครองศักดิ์ เพื่อนฝูงที่รัก พร้อมพรักเป็นสุข


คนเกิดวันศุกร์ พระประจำวันปางรำพึง
ผู้ใดเกิดวันศุกร์ บ่มีภัยทุกข์ ซื่อสัตย์ทุกประการ เพื่อนฝูงญาติกา มักมาเบียดผลาญ แต่ว่าวงศ์วาน ไม่สู้มีมาก เมื่อน้อยนั้นหนา ทายว่าลำบาก ตกไร้ได้ยาก แทบสิ้นชีวี ต่อแก่ชรา จะเทียมเศรษฐี สมบัติเปรมปรีดิ์ เป็นที่สถาพร จะเป็นกำพร้า บิดาตายก่อน ได้ทุกข์ได้ร้อน สองครั้งมั่นคง ถ้าพ้นแต่นั้น สมบัติยืนยง ครอบครองมั่นคง เป็นสงฆ์จึงดี มักบ่นมักด่า มักว่าจู้จี้ โกรธร้ายเต็มที ได้คิดเราเขา


คนเกิดวันเสาร์ พระประจำวันปางนาคปรก
ผู้ใดเกิดวันเสาร์ เพื่อนฝูงพงศ์เผ่า มักให้อันตราย น้ำใจห้าวหาญ เพื่อนฝูงมากมาย พี่น้องสืบสาย มักผิดใจกัน น้ำใจจองหอง โมโหหุนหัน ทุบถองตีรัน ชอบใจทุกสิ่ง เบ็ดเตร็ดเสเพล นักเลงผู้หญิง นักเลงทุกสิ่ง ชอบใจคนพาล ทำการสิ่งใด ให้เกียจให้คร้าน พี่น้องวงศ์วาน เขาไม่ดูดี คบเพื่อนสูงศักดิ์ รักกันเต็มที่ มิได้หน่ายหนี มักแพ้ลูกเมีย ผู้คนทั้งหลาย

จะเลี้ยงสุนัขสักตัว เลือกพันธุ์ไหนดี : สุนัข เลี้ยง สุนัข พันธุ์ สุนัข การ เลี้ยง สุนัข หมา



เรื่องแบบนี้ ก็คงอยู่ที่ความชอบเป็นสำคัญ บางคนชอบเลี้ยงสุนัขตัวกระจิริด
เพราะดูน่ารัก น่าทะนุถนอม ส่วนคนที่ขี้รำคาญหน่อยก็ชอบเลี้ยงสุนัขตัวใหญ่
เพราะกอดรัดฟัดเหวี่ยงได้เต็มไม้เต็มมือดี แถมเป็นยามเฝ้าบ้านที่ซื่อสัตย์อีกด้วย
ไม่เรียกร้องเงินเดือน ไม่คุยโทรศัพท์ทีละ
3-4 ชั่วโมง และไม่ขอลากลับบ้านทีละ 3
เดือน (หรือลาไปแต่งงานด้วย)


เยอรมัน เช็พเพอร์ด (German Shepherd)



หรือที่เราท่านรู้จักกันในชื่อของ อัลเซเชี่ยน เจ้าตูบยอดนิยมตัวแรกนี้ ด้วยรูปร่างที่สุดเท่ห์ แข็งแรง
บวกกับนิสัยซื่อตรง และแสนฉลาด ทำให้มันสามารถเรียนรู้ได้ไว
อีกทั้งมันมีประสาทในการดมกลิ่น และสะกดรอยเป็นเยี่ยม
จึงเป็นที่นิยมนำมาฝึกให้เป็นผู้ช่วยคนตาบอด สุนัขตำรวจ สุนัขสืบสวน
สุนัขกาชาด สุนัขนำทาง นอกจากนี้มันยังมีนิสัยรักเด็ก
และมีความสงบเสงี่ยม


แต่ด้วยความรอบรู้ของมันใช่ว่าใครก็จะเลี้ยงมันได้ คนที่มีนิสัยโกรธง่าย ใจร้อน ขี้ตกใจ ไม่ควรจะเลือกเลี้ยงเจ้าตูบพันธุ์นี้ เพราะจะมีผลต่อจิตใจของมัน ที่สำคัญมันต้องการเจ้านายที่มีความรักเสมอต้นเสมอปลาย


ดัลเมเชี่ยน (Dalmatian)



เจ้าตูบลายจุดพันธุ์นี้รูปร่างค่อนข้างจะปราดเปรียว
และเป็นเพื่อนที่ดีกับสมาชิกในบ้านทุกคน
โดยเฉพาะเด็ก ๆ มันจะชอบมากเป็นพิเศษ
ชนิดออกหน้าออกตาเลยทีเดียว อีกทั้งมันยังมีนิสัยขี้ประจบเป็นที่หนึ่ง
เจอะเจอใครในบ้าน แล้วเป็นต้องกระดิกหางทักทายไปทั่วจนน่าหมั่นไส้


แต่กับคนแปลกหน้ามันจะไม่ค่อยเป็นมิตรด้วย
เว้นแต่มันจะรู้ว่าเป็นเพื่อนของเจ้านายมันจริง ๆ เสียก่อน



ประเภท... ไม่แนะนำให้รู้จักก็ไม่พูดด้วยอะไรทำนองนั้น




บ๊อกเซอร์ (ฺBoxer)



นักบู๊ตัวนี้ หุ่นพอฟัดพอเหวี่ยงกับร็อตไวเลอร์ แต่ทรวดทรงองค์เอวดีกว่า
(ในหนังการ์ตูนฝรั่งเราจะเห็นมันบ่อย ๆ)
นอกเหนือจากความซื่อสัตย์และความรักที่มีต่อเจ้านายของมันซึ่งถือว่าเป็นที่หนึ่งไม่เป็นรองใครแล้ว
มันยังมีนิสัยซุกซนขี้เล่น ขี้ประจบ ว่านอนสอนง่าย ประเภทหน้าดุแต่ใจดีนั่นแหละ


ที่สำคัญเจ้าพันธุ์นี้จะรักเด็กมาก และส่วนใหญ่จะเป็นโรคเกลียดแมว โดยเฉพาะแมวในละแวกบ้าน
เห็นเป็นไม่ได้เลยทีเดียว ยกเว้นกับแมวในบ้านของตัวเอง




บูลด็อก (Bulldog)
เจ้าตูบหน้าบูดพันธุ์นี้จะเข้าข่าย "มะขามข้อเดียว"
รูปร่างหน้าตาภายนอกออกจะดูกวน ๆ อยู่ไม่ใช่น้อย แต่ในธาตุแท้ของมันแล้ว
มีนิสัยเป็นสุภาพบุรุษที่น่ารักตัวหนนึ่ง เวลาพามันออกมาเดินเล่นนอกบ้าน
มันจะวางมาดขรึม



(ตามสไตล์สุนัขประจำชาติอังกฤษ) ไม่วอกแวก


แต่พออยู่กับบ้านมันจะขี้เล่นขี้ประจบ โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ด้วยแล้ว
มันจะทำตัวน่ารักและสุภาพเป็นพิเศษ แต่บางครั้งก็จะแสดงนิสัยขี้เกียจออกมาให้เห็นจนน่ารำคาญ



ร๊อตไวเลอร์ (Rottweiler)


เจ้าตูบพันธุ์นี้ พูดได้เต็มปากว่า ...บึ้กมากกก
เพราะเรือนร่างของมันจะเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและมีความกล้าหาญเป็นเยี่ยม
ด้วยความกล้าหาญของมันนี่เอง บรรดาพ่อค้าสมัยโบราณจึงนิยมผูกกระเป๋าเงินไว้ที่คอของมัน
หากจะมองจากภายนอกแล้ว ชวนให้คิดไปถึงความดุร้าย แต่จริงๆ
แล้วเจ้าร๊อตไวเลอร์ เป็นสุนัขที่ว่านอนสอนง่าย ซื่อสัตย์
ฉลาดเรียนรู้ได้เร็ว และสงบเสงี่ยม ดังนั้นมันจึงชอบที่จะนั่งอยู่กับเจ้านาย
และครอบครับของเจ้านายคอยเป็นผู้อารักขาให้ มากกว่าออกไปวิ่งเล่น แต่ขณะเดียวกัน มันก็ไม่ค่อยชอบคนแปลกหน้าแปลกตาสักเท่าไหร่


โดเบอร์แมน (Doberman)



สำหรับใครที่จะเลี้ยงเจ้าตูบชนิดนี้
คงจะต้องทำการศึกษานิสัยของมันพอสมควร นอกจากความที่มันมีขนาดใหญ่ แข็งแรง
และฉลาดแล้ว



มันยังมีนิสัยดื้อเอาการทีเดียว ตอนเล็ก ๆ จะซนพอสมควร
คนที่จะเลี้ยงและฝึกฝนมันได้ต้องมีจิตใจมั่นคงเชื่อถือได้


อีกทั้งมันเป็นสุนัขที่ต้องการความรักและความเอาใจใส่จากเจ้าของมากเป็นพิเศษ
เพราะการเลี้ยงดูที่ดีและอบอุ่น จะทำให้มันมีนิสัยที่ดี ไม่ตระหนกและดูร้าย
แต่มันพร้อมจะกัดได้ทุกเวลา จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นมันทำท่าเตรียมพร้อมเมื่อเจอคนแปลกหน้า
ดังนั้น หากใครคิดจะเลี้ยงมันแล้วละก็ คิดดีๆ
คิดนานๆ
และหลายตลบนะครับ ว่าคุณสามารถเอามันอยู่หรือเปล่า



เชา เชา (Chow
Chow)



เจ้าตูบหน้าบึ้งขนฟูพันธุ์นี้
นิสัยค่อนข้างเยือกเย็น สุขุม ชอบวิ่งเล่นไปไหนมาไหนในบ้านอยู่เสมอ
มากกว่าจะนอนตีพุงอยู่กับที่ทั้งยังมีนิสัยดื้อ และมักเอแต่ใจตัวอยู่บ่อย ๆ


นิสัยเด่นของมันอีกประการคือ มันจะรักเด็ก ๆ มาก ไม่แพ้พวกดัลเมเชี่ยน
หรือบ๊อกเซอร์
และชอบที่จะแสดงความรักต่อเจ้านายของมัน
แต่ก็ไม่เคยลืมตัว


เราก็ได้ทราบถึงนิสัยใจคอของบรรดาเจ้าตูบแต่ละพันธุ์ไปแล้ว ก็ตัดสินเลือกซื้อหาพันธุ์ที่คุณชอบ
และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมาเลี้ยง คุณจะได้ดูแลเขาให้อยู่ดีมีสุข
ได้รับความรักจากเจ้าของอย่างเต็มที่

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

น้ำตาล+ภาวะฟันผุ

อาหารที่เรากินทุก วันนี้ ล้วนแต่มีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่ ทั้งที่มีโดยธรรมชาติในตัวอาหารหรือที่มนุษย์เราแต่งเติมลงไป น้ำตาลที่กล่าวถึงนี้ส่วนใหญ่อยู่ในรูปที่เรียกว่า ซูโครส ซึ่งพบมากในน้ำตาลอ้อย ในน้ำตาลมะพร้าว และน้ำตาลทรายขาว

ในผักและผลไม้จะมีน้ำตาลกลุ่มที่เรียกว่าฟรักโทสและกลูโคส จะเป็นน้ำตาลที่มีขนาดเล็กที่สุดอยู่ตามธรรมชาติ
ถ้าเราเอาน้ำตาลซูโครสมาย่อยด้วยเอนไซม์จะได้น้ำตาลฟรักโทสและน้ำตาลกลูโคส อย่างละ 1 ตัวแล้ว ฟรักโทสจะเป็นน้ำตาลที่หวานที่สุด แต่กลับถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดได้ช้ากว่ากลูโคส บางคนอาจเคยได้ยินคำว่า น้ำตาลแล็กโทส


ตัวอย่าง ปริมาณและชนิดของน้ำตาลในผักและผลไม้ต่อ 100 กรัม( 1 ขีด )



น้ำตาลแล็กโทสจะเป็นน้ำตาลเพียงชนิดเดียวที่ได้จากสัตว์ บางครั้งจะเรียกว่าน้ำตาลนม เพราะพบในผลิตภัณฑ์จากนมของสัตว์เท่านั้นส่วนน้ำผึ้งความจริงเป็นเพียงน้ำ หวานจากดอกไม้ที่ผึ้งนำมาสะสมไว้เท่านั้น จะเป็นน้ำตาลฟรักโทสและกลูโคส อาหารจากแป้งเมื่อร่างกายย่อย แล้วก็จะได้เป็นน้ำตาลดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลใด ๆ ในอาหาร แบคทีเรียในปากจะดำรงชีพอยู่ได้ด้วยการย่อยสลายแป้ง และน้ำตาลที่คั่งค้างอยู่ในช่องปากทำให้เกิดกรดแล็กติก กรดแล็กติกนี้เองที่จะเป็นตัวทำลายเคลือบฟันให้กร่อน และบางลงจนเกิดฟันผุ



การกินน้ำตาล

ในวันหนึ่ง ๆ คนเราจะได้พลังงานจากน้ำตาลโดยเฉลี่ยร้อยละ 18 แต่ความแตกต่างของการกินนั้นยังขึ้นกับอายุและเพศอีกด้วย นอกจากนี้อาจจะมีการกินของหวานที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเกิดขึ้นในกรณีพิเศษ เช่น ในงานตรุษ งานสารท หรืองานฉลองพิเศษ
อย่างไรก็ดี การกินของหวาน ยังเป็นนิสัยการกินประจำตัวหรือแม้แต่เชื้อชาติก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ชาวตะวันตกจะชอบกินของหวานมากกว่าชาวตะวันออก ตำรับของหวานที่ต้องใช้น้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก ส่วนใหญ่จะเป็นตำรับฝรั่ง ส่วนตำรับจีนและญี่ปุ่นแทบจะไม่มีระบุตำรับของหวานเลย


สำหรับคนไทยได้รับวัฒนธรรมการกินจากทั้งตะวันตกและตะวันออก และพิถีพิถันเรื่องการกินมาก ตำรับขนมหวานของไทยจึงมีเป็นร้อยชนิด ส่วนประกอบหลักคือน้ำตาล แป้งชนิดต่าง ๆ ไข่และกะทิ โดยเฉลี่ยคนไทยจะกินน้ำตาลทราย 60 กรัมต่อวัน

คนอเมริกันบริโภคน้ำตาลโดยเฉลี่ย 94 กรัมต่อวันชาวยุโรป เช่น เบลเยี่ยม อังกฤษ เยอรมัน เดนมาร์ค บริโภคน้ำตาลโดยเฉลี่ย 97 กรัมต่อวันแต่ การบริโภคน้ำตาลในปริมาณที่สูงไม่ใช่ปัญหาหลักที่จะทำให้เกิดฟันผุ ทั้งนี้เพราะในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาได้มีการรณรงค์แก้ไขปัญหาฟันผุด้วยการให้เด็กนักเรียนแปรงฟัน หลังกินอาหารเป็นประจำ เพื่อลดเศษอาหารที่เกาะตามเนื้อฟันซอกฟันที่แบคทีเรียใช้ดำรงชีพต่อไป
นอกจากนี้ยาสีฟันแทบทุกประเภทจะมีการผสมสารฟลูออไรด์ เพราะฟลูออไรด์มีคุณสมบัติด้านเป็นความกรด กระตุ้นให้มีการสะสมของแร่ธาตุที่ฟันมากขึ้น และมีกลไกที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย

การป้องกันฟันผุ

การรักษาสุขอนามัยของช่องปากนับว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในทุกเพศทุกวัย เพราะถ้าสุขภาพภายในช่องปากดีจะทำให้การเกิดฟันผุได้น้อยลง ซึ่งสุขภาพภายในช่องปากจะรวมทั้งการป้องกันการเกิดเหงือก และเนื้อเยื่อในช่องปากอักเสบเรื้อรัง กระดูกที่เป็นเบ้าฟันต้องแข็งแรงและ การแปรงฟันที่ถูกวิธี

ส่วนความสัมพันธ์ของอาหาร ที่จะมีอิทธิพลต่อการเกิดฟันผุนั้น พบว่ามีผลโดยอ้อม เพราะเมื่อร่างกาย ขาดสารอาหารเกิดภาวะทุพโภชนาการจะมีผลต่อภาวะภูมิคุ้มกันของโรคต่ำลง การอักเสบของเนื้อเยื่อจะเกิดได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งจากการสำรวจประชากรจำนวน 21,559 คนทางระบาดวิทยาทั่วโลกด้วยทีมงานวิจัยที่ประกอบด้วยแพทย์ ทันตแพทย์ นักชีวเคมี นักโภชนาการ พบว่า กลุ่มที่มีภาวะเหงือกอักเสบ จะขึ้นกับอายุและสิ่งที่มีอิทธิพลอย่างมากคือการมีสุขภาพอนามัยของช่องปาก ที่ไม่ดีถึงร้อยละ 66 และได้มีการกล่าวสรุปในที่สุดว่า “สิ่งที่ดีที่ สุดของการรักษาสุขภาพช่องปากมิได้ขึ้นอยู่กับอาหารที่กินเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นกับการขจัดคราบที่เกาะที่เรียกว่า พลาค (plaque) ด้วยวิธีแปรงฟันที่ถูกวิธี”


ในเด็กทารกที่ยังไม่สามารถแปรงฟัน ได้ ควรทำความสะอาดฟันทุกครั้งหลังจากการกินนม อาจให้ดูดน้ำมาก ๆ หลังจากดูดนมแล้วและควรใช้ผ้านิ่ม ๆ เช็ดฟันให้สะอาด การให้เด็กดูดนมจนหลับไปจะทำให้เกิดฟันผุมาก

เมื่อเด็กโตขึ้นสามารถ ที่จะเคี้ยวอาหารได้ การให้เด็กได้กัดเคี้ยวผัก ผลไม้ที่มีเส้นใยและรสไม่หวานจะมีประโยชน์ในแง่ที่ช่วยขจัดคราบและทำให้ฟัน สะอาดและช่วยบริหารเหงือกด้วย แต่มิได้หมายความว่าจะเป็นวิธีที่ใช้แทนการแปรงฟันได้

อย่างไรก็ตาม การแปรงฟัน อย่างน้อยที่สุดวันละสองครั้งจะเป็นวิธีที่ทำความสะอาดฟันได้ดี โดยเฉพาะคนที่มีลักษณะโครงสร้างของฟันที่เรียกว่าฟันห่างจะมีเศษอาหารติดได้ ง่าย รวมทั้งคนที่มีโครงสร้างของตัวฟันใหญ่ หนา แต่คอฟันและกรามมีขนาดเล็กทำให้เกิดช่องว่าง การทำความสะอาดฟันจะเป็นสิ่งที่ยากมากขึ้น

เมื่อ ทำความ เข้าใจถึงการเกิดภาวะฟันผุแล้ว อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่าการกินอาหารไม่จำเป็นต้องงดอาหารแป้งและน้ำตาลเลยเสีย ทีเดียว แต่ควรกินอาหารให้ได้สัดส่วนและควรลดการส่งเสริมการเกิดภาวะฟันผุ

สูตรการคบเพื่อน (ที่ดี)

ถ้าพูดถึงคำว่า "เพื่อน" แล้ว คุณคิดว่า คำนี้ มีความสำคัญต่อคุณมากแค่ไหน ? แล้วคำนิยามหล่ะ คุณให้คำจำกัดความว่าอย่างไร
กับ คำๆนี้ สำหรับหลายๆคน "เพื่อน" เปรียบเสมือนคนรู้ใจ คนสนิท คนที่เราสามารถพูดได้เวลามีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน
เรื่องความรัก หรือปัญหาอื่นๆ นอกเหนือจากพ่อแม่แล้ว "เพื่อน " ก็คือคนที่ใกล้ชิดเรามากที่สุด อีกคนหนึ่งนั่นเอง

ความเป็นเพื่อนไม่จำเป็นต้องเลิศหรู เพียงแต่ คุณลองทำตามเคล็ดลับ ที่เรานำมาฝากกันนี้ มันก็จะทำให้คุณสามารถมีเพื่อนที่รู้ใจ
แถมยังทำให้ตัวคุณก็สามารถ เป็นเพื่อนที่ดีของคนอื่นได้อีกด้วย

1. คอยเป็นกำลังใจ
มื่อ ใดก็ตามที่เพื่อนของคุณอยู่ในสภาวะที่ไม่ค่อยปกตินัก เช่น เสียใจ หรือ กำลังร้องไห้ คนที่เขาอยากให้มาอยู่ใกล้ๆนั่นก็คือ คนที่สามารถ
ทำให้เขาสบายใจ บางทีคุณอาจไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลย มันก็สามารถทำให้เขารู้ว่าคุณก็เป็นห่วงเขาเหมือนกัน เพียงแต่คุณนั่งลง และบอกกับเขาว่า "ฉันจะอยู่ข้างๆเธอ" เพียงเท่านี้ เขาก็จะมีพลังที่จะจัดการกับอุปสรรคต่างๆได้

2. ยินดีในความสำเร็จ
เมื่อใดก็ตามที่เพื่อนของคุณ ประสบความสำเร็จ คำพูดที่เขาอยากได้ยินจากคุณก็คือ "ดีใจด้วยนะ" เพียงประโยคเดียวเท่านี้
ก็สามารถต่อสายสัมพันธ์ ได้อีกยาวไกลเลย เพราะไม่ว่าใคร รวมถึง ตัวคุณเองก็ย่อมอยากได้กำลังใจจากคนรอบข้าง ใช่ไหมหล่ะ


3. อย่าถากถาง หรือ ซ้ำเติม
ในทางตรงกันข้าม ยามใดก็ตามที่เพื่อนของคุณก้าวพลาดไป อย่างแรกที่เขาต้องการนั่นคือกำลังใจ และคำปลอบโยน จากคุณเหมือนกัน
เพื่อ ให้เขายังรู้สึกว่า มีใครบางคนที่เป็นห่วงเขาเหมือนกันนะ และยังพร้อมที่จะให้โอกาส เสมอ อย่างน้อยแค่ประโยคเดียว เพียงบอกเค้าว่า "เริ่มต้นใหม่ได้หน่ะ เพื่อน"

4. มอบความจริงใจ
เมื่อ ใดก็ตามที่คุณคบกับใครอยู่ คุณก็ต้องการได้ความจริงใจจากเขาใช่ไหม เมื่อใดก็ตามที่คุณอยากได้สิ่งใดจากผู้อื่น คุณต้องรู้จักการ ให้ในสิ่งนั้นก่อน ถ้าคิดอยากจะเป็นฝ่ายรับอย่างเดียว เห็นทีจะไม่ไหว ต้องรู้จักป็นทั้งผู้ให้ และผู้รับต่างหาก

5. มีน้ำใจ
เมื่อ ใดก็ตามที่เพื่อนของคุณต้องการความช่วยเหลือ สิ่งใดช่วยได้ ขอจงอย่าช้า รีบช่วยเหลือตามกำลัง และความสามารถที่คุณจะสามารถ ช่วยเหลือเขาได้ แต่ต้องมาจากความจริงใจเป็นที่ตั้ง เพื่อให้เขารู้สึกว่าคุณคือเพื่อนแท้ของเขาในเวลาที่เขาไม่มีใคร

6. รู้จักให้อภัย
เมื่อ ใดก็ตามที่ความผิดเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือ เพื่อนของคุณก็ตาม อย่างแรกที่ คุณควรจะรู้จัก คือคำว่า "ขอโทษ" เพราะ สำหรับเพื่อนแล้ว คำขอโทษ เพียงคำเดียวก็สามารถต่อสายสัมพันธ์อันลึกซึ้ง ระหว่างคุณกับเพื่อนของคุณได้อย่างลงตัวที่สุดเลย

7. อย่าคิดว่าคุณไม่มีค่า
มื่อใดก็ตามที่คุณ หรือเพื่อนของคุณมีความรู้สึกเช่นนี้ นั่นคือคุณไม่ยอมเปิดกว้างสำหรับมิตรภาพ ซึ่งจะทำให้คุณมองโลกในแง่ร้าย
คุณ ควรจะเปิดตัวเอง ออกมารับรู้และยอมรับ คำว่าเพื่อนไม่มีใครดีหรือเลว เพียงแต่คุณต้องรู้จักการปรับตัว เข้าหาทั้งด้านดี และด้านเลว ของคนนั้น ถูกบ้างผิดบ้าง ยังไง ก็ "เพื่อน"กันน่า...นะ

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เป็นเพียงหลักการเบื้องต้น ที่จะทำให้คุณมีเพื่อนและสามารถเป็นเพื่อนที่ดีกับผู้อื่นได้ด้วย
และ เมื่อใดก็ตามที่คุณสามารถช่วยเหลือเขาได้ บางทีค่าตอบแทน อาจจะไม่ใช่ แก้ว แหวน เงิน ทอง แต่คุณจะได้สิ่งที่ล้ำค่ากว่า สิ่งเหล่านั้น นั่นก็คือ คำว่า


"เพื่อน" ไง

ทำยังไงจะเก่งภาษาอังกฤษ?

1. มีหนังสือเกี่ยวกับภาษาอังกฤษอยู่ใกล้ๆ หรือติดตัวอยู่เสมอ จะเป็นเล่มเล็กเอาพกพาหรือว่าเล่มใหญ่

เอาไว้อ่านยามวางก็ได้
2. จดศัพท์หรือประโยคที่เราอยากจำใส่ไว้ในกระดาษ เราจะได้หยิบเอามาท่องหรืออ่านประโยคที่อยาก

จะจำได้ง่ายๆ พกติดตัวไปทุกที่ หรือเวลาเข้าห้องน้ำว่างๆ ก็เอาออกมาอ่านได้ (ข้อดีของการจดใส่

กระดาษก็คือ เราจะได้จำตอนจดด้วยไงค่ะ)
3. เขียนใส่บนกระดาษแข็งแล้วแปะเอาไว้ตามจุดต่างๆ ที่เราคิดว่าเราอ่านได้สะดวก เช่นในห้องน้ำ

ตอนเราอาบน้ำเพลินๆ ก็อ่านและจำคำศัพท์ไปด้วย
4. มาหัดร้องเพลงสากลกันเถอะค่ะ จะได้ฝึกทั้งภาษาและฝึกร้องเพลงสากลเพราะๆ ไปพร้อมๆ กัน เนื้อ

เพลงสากลก็หาไม่ยากเลย อยากได้เนื้อเพลงอะไรก็ให้ search Google โดยใช้คำว่า

Lyrics ต่อท้ายชื่อเพลงที่เราต้องการจะหาก็จะทำให้เราค้นหาได้ง่ายขึ้น
5. ให้คุณเลือกที่จะใช้การค้นหาแบบภาษาอังกฤษใน Google พยายามเข้าเว็บไซด์ที่เป็นภาษา

อังกฤษ เราจะได้คุ้นเคยกับภาษาและรูปแบบการเขียนในประโยคต่างๆ มากมาย ซึ่งดิฉันรับรองว่าใน

เวลาไม่นาน ถ้าเราได้เรียนรู้และได้ใกล้ชิดกับภาษาอังกฤษบ่อยๆ หรือทุกวัน อีกไม่นานเราก็จะ

สามารถเข้าใจและใช้คำพูดสื่อสารกับต่างชาติได้มากขึันค่ะ
6. ฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษบ่อยๆ ลองไปหาโหลดไฟล์ mp3 หรือลองค้นหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ

Audiobook - Conversation in English ใน Google ดูก็ได้

นะคะ เพราะว่าจะมีที่ให้ดาวน์โหลดฟรีเยอะแยะเลยค่ะ หรือถ้าหากยังไม่คุ้นเคยที่จะหาข้อมูลเอง ก็ให้

เข้าไปที่ http://www.andrewbiggs.com/about_aba.html คุย

กับฝรั่งง่ายนิดเดียว! โดยแอนดรูว์ บิ๊กส์ หรือ

http://www.chrisdelivery.com/ ของคุณคริส ก็ได้ค่ะ
7. ดูหนังซาวน์แทรค ได้ฝึกแบบเต็มๆ ค่ะ สำหรับการฟังและการออกเสียง ลองพูดตามด้วยก็จะยิ่งดีนะ

คะ และไฟล์ mp3 ที่เราไปหาโหลดมาแล้ว เราก็เอามาใส่ในโทรศัพท์หรือ Ipod เอาไว้ฟังก็จะ

ยิ่งดีมากๆ เลยค่ะ เพราะดิฉันก็ทำอยูู่ช่วยให้เราคุ้นเคยกับภาษามากขึ้น เข้าใจมากขึ้น และก็อย่าลืมพูด

ตามไปด้วยนะคะ จะได้ชินในการออกเสียง พูดถึงแล้วก็สนุกดีนะคะ พอเบื่อฝึกภาษาก็เปลี่ยนเป็นฟัง

เพลงสากลเพราะหรือเพลงไทยบ้างก็เพลินดี ไม่ต้องไปแคร่งเครียดมากนะคะ ค่อยๆเรียนและฝึกฝนไม่

ให้ขาดดีกว่า ฝึกหนักๆ จนเบื่อและไม่อยากเรียนอีก เหมือนตอนไปเข้าเรียนคลาสพิเศษ ค่เรียนก็แพง

แต่ความรู้ที่ได้รับมามันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลยเสียทั้งค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่ำเวลา สู้เราศึกษาและเรียนรู้ด้วยตัว

เองทุกวัน ดิฉันคิดว่ามันน่าจะคุ้มและดีกว่ากันเยอะเลยค่ะ

สรุปง่ายๆ ก็คือให้เราไม่ลืมที่จะฝึกฝนทุกๆ วัน "ไม่ลืมไม่ห่างเหิน" "รักกันรักกัน" ขอให้โชคดีนะคะ